วรรณคดีสมัยรัชกาลที่ 2

เนื่องจากในรัชสมัยนี้  เหตุการณ์บ้านเมืองค่อนข้างจะสงบเรียบร้อย  ทั้งองค์อถปภัมภกก็ทรงเป็นศิลปินและกวีผู้ทรงอัจฉริยภาพยิ่ง  ดังนั้น  วรรณคดีในยุคนี้จึงเจริญรุ่งเรืองที่สุดยุคหนึ่ง

วรรณคดีในสมัยรัชกาลที่  2  ดีเด่นในด้านศิลป์เป็นพิเศษ  เพราะมีกวีที่มีความสามารถมากมาย  และกวีเหล่านี้ได้แสดงฝีมือในการกวีได้อย่างเต็มทีี่  โดยเฉพาะวรรณคดีประเภทบทละครได้รับการพัฒนาให้ถึงพร้อมด้วยความงามที่กลมกลืนกับศิลปะแขนงอื่นๆด้วย

วรรณคดีนิทาน  นิยายที่เด่นที่สุดในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ก็เกิดขึ้นในยุคนี้  ได้แก่  ขุนช้างขุนแผน  พระอภัยมณี  และ  อิเหนา 

การพัฒนาทักษะการอ่านเพื่อประเมิณค่า

1.  พัฒนาืทักษะการอ่านจับใจความ  อ่านตีความ  และอ่านวิเคราะ์ห์
2.  กำหนดเกณฑ์การประเมิณค่างานประพันธ์  ให้เหมาะสมกับประเภท
3.  ประเมิณค่างานประพันธ์ตามเกณฑ์ที่กำหนด
4.  เรียบเรียงผลการประเมินนำเสนอผ่านการพูดหรือการเขียน

คำกลอนสอนใจให้ผู้อ่านได้ตรักหนักถึงการเรียน

นานาประเทศล้วน        นับถือ
คนที่รู้หนังสือ              แต่งได้
ใครเกลียดอักษรคือ      คนป่า
ใครเยาะกวีไซร้            แน่แท้คนดง





ทักษะจำเป็นที่จะต้องมีในการอ่าน 4 ทักษะคือ

                        1)  มีความเข้าใจศัพท์  หมายถึง  เข้าใจความหมายของคำที่ปรากฏอยู่ตามลำพังและที่ปรากฏอยู่ในข้อความ
                        2 )  มีความเข้าใจเนื้อเรื่อง  หมายถึง  สามารถแปลความ  ตีความ  และ  ขยายความ  จากข้อความหรือเรื่องราวที่อ่าน
                        3  )  ความคิดเชิงวิจารณ์  หมายถึง  ความสามารถในการพิจารณาเหตุผลจากข้อความที่อ่าน  เข้าใจความคิดหรือความมุ่งหมายของผู้เขียน  และสามารถที่จะอภิปรายได้
                        4  )  ความคิดเชิงสร้างสรรค์  หมายถึง  ความสามารถในการรวบรวมความคิดจากการอ่านเชื่อมโยงกับประสบการณ์เดิมให้เป็นความคิดใหม่ของตนเองแล้วนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและต่อสังคม

พฤติกรรมการอ่าน 3 ด้าน

พฤติกรรมการอ่าน  3  ด้าน  คือ
                        การแปรความ  คือ  เข้าใจเรื่องราวเดิมแล้วสามารถแปลเรื่องนั้นดป็นคำใหม่  ภาษาใหม่  หรือรูปแบบใหม่  โดยไม่ผิดจากเจตนาเดิม
                        การตีความ  คือ  การเข้าใจเรื่องราวที่ลึกซึ้ง  มองได้กว้างขวางหลายแง่มุม  และโยงไปสู่เรื่องที่เกี่ยวข้ิองได้
                        การขยายความ  คือ  การนำความรู้  ความเข้าใจเรื่องที่ถูกต้องไปขายความเพิ่มเติมให้ลึกซึ้งได้มากขึ้น


อาบูหัสซัน ตอนที่ 9


                ยกตัวขึ้นเปนครูผู้สัมฤทธิ์                                                  สั่งสอนศิษย์อุตริลัทธิพาล
          มันอยู่วัดชื่อโพ้นข้างโน้นแน่                                          เหมือนกระแสเราสั่งดังบรรหาร
                มาเฆี่ยนเสียที่กลางสถลมารค์                                          ทำประจานอย่าให้มีปรานีมัน
                อ้ายตัวครูผู้ใหญ่เฆี่ยนให้หนัก                                          ตีสะบกอย่าให้ปลอดตลอดสัน
                เต็มที่ร้อยนับบรรจบให้ครบครัน                                     ลูกศิษย์นั้นคนละร้อยอย่าถอยทด
                แล้วให้ขึ้นขี่อูฐทั้งห้าคน                                                    อ้ายสัปดนกลับมาหลังหมด
                ตระเวนรอบพระนครอย่าหย่อนลด                                ประกาศกฎร้องป่าวชาวบุรี
                อย่าให้ใครดูอย่างอ้ายชาติชั่ว                                             แล้วขับไล่ใสหัวจากกรุงศรี
                อย่าให้มันเหยียบพื้นปัถพี                                                 ในธานีของกูสูจงไป
                นครบาลรับโองการนรินทร์ราช                                      รีบลีลาศเร็วจริงวิ่งออกไขว่
                ฉวยได้เครื่องพันธนาการพากันไป                                  โดยฉับไวรีบรัดถึงวัดวา
                พบอิแมนตัวครูเปนผู้เถ้า                                                    ต่างกรูเข้าไล่หยิกจิกเกษา
                ฉวยโซ่ใส่คอซ้ำแล้วจำคา                                                   พันธนาผูกรัดมัดไป
                ตะคอกขู่ร้องด่าว่าอ้ายนี่                                                     บ้างทุบตีฉุดคร่าไม่ปราไส
                แล้วช่วยกันค้นคว้าหาข้างใน                                            จับศิษย์สี่คนได้ตัวมา
                ธำมรงค์ล่ามโซ่สายเหล็กใหญ่                                          แล้วผลักไสลากก้มล้มถลา
                ไปบัดเดี๋ยวเลี้ยวลัดพ้นวัดวา                                              ถึงศาลาซักถามได้ความจริง
                ตัวอิแมนสารภาพรับเปนสัตย์                                           ได้ความชัดแม่นแท้แน่ทุกสิ่ง
                ไม่ต้องสืบคำพยานมีค้านติง                                             ครั้นได้จริงแล้วก็ยึดนักโทษลง
                เฆี่ยนอิแมนตัวดีไม่มีน้อย                                                  ครบสี่ร้อยดังหะซันนั้นประสงค์
                ลูกศิษย์ตีร้อยถ้วนจำนวนคง                                              แล้วธำมรงพาตัวตะเวนไป
                ให้ขี่อูฐกลับหน้ามาข้างหลัง                                             ตามรับสั่งเสร็จสรรพแล้วขับไล่
                มิให้อยู่ในประเทศเขตรเวียงไชย                                     แล้วกลับไปกราบทูลมูลคดี  ฯฯ
                      อาบูได้สดับสารสำราญจิตร                                    ด้วยสมคิดปรีดิ์เปรมเกษมศรี
                แต่ตรึกตรองปองหมายมาหลายปี                                    จนคราวนี้จึงได้เสด็จสำเร็จการ
                แล้วแย้มเยือนเอื้อนโอษฐโปรดประภาษ                        พจนาดถ์สุนทรอันอ่อนหวาน
                เออเราใช้ให้ไปก็ได้การ                                                     นครบาลทำชอบข้าขอบใจ  ฯฯ
                      ส่วนกาหลิบลอบดูอยู่ในห้อง                                 เห็นหะซันทำต้องอัชฌาไศรย
                พระองค์แสนสำราญพระหฤไทย                                    ภูวไนยแย้มยิ้มด้วยยินดี  ฯฯ
                      จะกล่าวกลับจับเรื่องหะซันใหม่                           ยังเนาในท้องพระโรงเรืองศรี
                สถิตย์เหนือแท่นรัตน์รูจี                                                     จึงสั่งมหาเสนีไกฟา
                ท่านจงไปเบิกทองคำน้ำเก้า                                               มาให้เราพันลิ่มเร็ว ๆ หนา

อาบูหัสซัน ตอนที่ 8


                เปนที่แครนด์วิเซียราชสฤษดิ์                                           ราชกิจฝ่ายน่าได้ว่าขาน
          เปนผู้สำเร็จเด็ดขาดราชการ                                              ในผู้ผ่านแบคแดดธานี
          บทจรเข้ามายังที่เฝ้า                                                            แล้วน้อมเกล้าลงประนตบทศรี
          จึงทูลถวายพรพลันทันที                                                   ตามประเพณีผู้ผ่านซึ่งเวียงไชย
          ขอพระองค์ผู้ทรงธรรมเที่ยงธรรม์                                  ปราศจากไภยันต์สบไสมย
          จงเจริญศุขสำราญราชฤไทย                                             การสิ่งไรพระประสงค์จำนงปอง
          ให้สำเร็จเสด็จดังพระไทยมาด                                         อย่าเคลื่อนคลาศสมถวิลสิ้นทั้งผอง
          ในโลกน่าพระองค์จงสมพอง                                          ได้สู่ห้องพิมานสวรรค์ชั้นฟ้า
                       ฝ่ายอาบูได้ฟังบังคมทูล                             เปนเค้ามูลก็สิ้นความกังขา
          ด้วยสมจิตรที่คิดเจตนา                                                       ไม่ไตรตราถ่องแท้ให้แน่ใจ
          จึงสำแดงอำนาจราชฤทธิ                                                  ปกาสิตเรียกวิเซียขุนนางใหญ่
          ท่านวิเซียมีธุระสิ่งอะไร                                                    จงบอกไปบัดนี้อย่าได้ช้า
          แครนด์วิเซียได้สดับพจนาดถ์                                           อภิวาทน้อมประก้มเกษา
          ทูลว่าหมูข้าบาทมุลิกา                                                        พร้อมกันมาคอยเฝ้าเจ้าธานี
          นายอาบูได้ฟังจึงสั่งตอบ                                                   โดยระบอบแบบกระษัตริย์เรืองศรี
          ให้ขุนนางเข้ามาบัดเดี๋ยวนี้                                                การใครมีจะได้ว่าเปนน่าไป
          ไกฟาเสนาได้สดับ                                                              น้อมคำนับเกษก้มบังคมไหว้
          แล้วออกมาเบิกทวารชั้นใน                                              เรียกขุนนางเข้าไปพร้อม
          พวกขุนนางต่างจัดกันตามยศ                                           พร้อมหมดทีละคู่ดูคมสัน
          เข้ามาน้อมเกษก้มบังคมคัล                                              แทบสุวรรณแท่นรัตน์กระษัตรา
          ยืนเรียงกันโดยลำดับเปนตับไป                                       ตามผู้น้อยผู้ใหญ่ทั้งซ้ายขวา
          ไม่ก้าวก่ายทลึ่งทลั่งอหังกา                                               ถอยถดลดลงมาตามหมวดกรม
                                    อาบูแลดูหน้าหมู่ข้าเฝ้า                              เห็นแต่งกายไม่เศร้าสวยสม
          หมดจดตามยศอย่างอุดม                                   ก็ชื่นชมโสมนัศปรีดา
          จึงไกฟาเสนาผู้ภักดี                                                            ยืนน่าหมู่เสนีในฝ่ายน่า
          แล้วอ่านบอกถวายมิได้ช้า                                                 ด้วยราชการภาราสารพัน
          นายอาบูกาหลิบได้สดับ                                                     ก็บังคับภารกิจไม่ผิดผัน
          ตามประเพณีองค์พระทรงธรรม์                                     ด้วยหะซันนั้นไซ้ไวปัญญา
          แล้วดำรัสตรัสเรียกพนักงาน                                            นครบาลเร็วไวอยู่ไหนหวา
          ไปจับชายอาจารย์ตัวการมา                                               กับศิษย์หาสี่คนเปนต้นคิด
          มันสั่งสอนสาสนามะหะหมัด                                         มาตู่ผลัดแปลงเปลี่ยนจนเพี้ยนผิด

อาบูหัสซัน 7


               ได้กลับมาเปนองค์พระทรงธรรม์                                   รวดเร็วฉับพลันทันท่วงที
                ตริพลางทางสะเทินนึกเขินขวย                                       ให้งงงวยเปนอย่างไรไฉนนี่
          ประหลาดหลากเหลือใจใช่พอดี                                      ไยมาเปนเช่นนี้ก็สุดคิด 
                        นางกำนัลช่วยกันเปลี่ยนภูษา                                  ลายสุวรรณวิจตรเปนดอกลอย
          สวมเสื้อฟื้นกำมะหยี่สีสำริด                                            ลายสุวรรณวิจิตรเปนดอกลอย
          ทรงมหามาลาเนาวรัตน์                                                     ตรูตรัจมลังเมลืองเฟื่องห้อย
          พิศแสงช่วงรุ้งพุ่งพร้อย                                                     สุกย้อยยับ    จับในตา
          ถวายพระแสงกั้นหยั่นกัลเม็ด                                          ประดับเพ็ชรเหน็บแนบพระภูษา
          พระแสงปืนทองคำถมยา                                                  กระบี่ควรค่าคู่นคร
          งามดังองค์ธิบดินทร์ปิ่นพิภพ                                          เครื่องราชูประโภคครบไม่ลดหย่อน
          เสร็จแล้วยุรยาตรนาดกร                                                    บทจรออกพระโรงพรรณราย
          พวกยุนุกแลสุรางค์นางกำนัล                                           ต่างเดินตามหะซันผันผาย
          แซงสองข้างมรรคาทั้งขวาซ้าย                                        เมศเรอตัวนายนำน่ามา
          พวกชาวที่เปิดบานทวารรับ                                              น้อมคำนับบังคมก้มเกษา
          อาบูยูรยาตรคลาศคลา                                                        รีบออกมาถึงท้องพระโรงคัล
          เมศเรอเชิญขึ้นบนแท่นรัตน์                                            ที่บรมกระษัตริย์รังสรรค์
          เข้าประคองเคียงกายนายหะซัน                                      ขึ้นบนบัลลังก์รัตน์ชัชวาลย์
          ต่างประนมก้มเกษลงคำนับ                                             วิเซนรับเสียงแตรแซ่บรรสาร
          มโหรถึกกึกก้องเปนกังวาน                                              โอฬารพรรฤกเสียงครึกโครม
          ทหารราชวัลลภยืนสล้าง                                                   ดูท่าทางเหมือนจะปะทะโถม
          ทั้งท่วงทีเข้าขันประจันโจม                                              จะรอนโรมข้าศึกไม่นึกกลัว
          ยืนประจำริมผนังพระโรงใน                                           แต่ละตนว่องไวมิใช่ชั่ว
          ถือสาตราอาวุธประจำตัว                                   รายอยู่ทั่วที่ผนังพระโรงคัล
          เมื่ออาบูขึ้นนั่งบนบัลลังก์ราช                                          ดูท่วงทีองอาจเห็นคมสัน
          พวกข้าเฝ้านบน้อมลงพร้อมกัน                                       อภิวันท์อวยไชยถวายพร  ฯฯ
                              ครานั้นกาหริบธิบดี                                                   พระภูมีชื่นชมสโมสร
          มาแอบบังหลังทวารอันบวร                                             ภูธรทอดพระเนตรดูหะซัน
          ได้เห็นเสนาหมูข้าเฝ้า                                                        อ่อนเกล้าไม่รังเกียจเดียดฉัน
          ดูเกรงยำทำถ่อมพร้อมกัน                                                 ยิ่งโปรดปราณหะซันเพิ่มภูล 
                              จะกล่าวถึงอรรคมหาเสนา                       นามไกฟาข้าบาทนเรนทร์สูร
          ปรากฏสมยศบริบูรณ์                                                         สืบตระกูลมาตยามาช้านาน