Bill Gate (บิลเกรด)

Bill Gate (บิลเกรด)



 เกิดวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 1955
วิลเลียม เฮนรี เกตส์ ที่สาม ที่มักเป็นที่รู้จักในชื่อ บิลล์ เกตส์ เป็นนักธุรกิจชาวอเมริกัน และหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ เขากับผู้บุกเบิกด้านคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลคนอื่น ๆ ได้ร่วมกันเขียนต้นแบบของภาษาอัลแตร์เบสิก ซึ่งเป็นอินเตอร์เพรเตอร์สำหรับเครื่องอัลแตร์ 8800 (เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในยุคแรกๆ) เขาได้ร่วมกับ นายพอล อัลเลน ก่อตั้งไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชันขึ้น ซึ่งในขณะนี้เขาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหาร และหัวหน้าสถาปนิกซอฟต์แวร์ นิตยสารฟอบส์ได้จัดอันดับให้ บิลล์ เกตส์ เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกหลายปีติดต่อกัน
วิลเลียม เฮนรี เกตส์ ที่สามได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการอัศวินแห่งจักรวรรดิบริเตน (KBE) จากสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2


บิลล์ เกตส์ เกิดที่เมืองซีแอทเทิล มลรัฐวอชิงตัน เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 1955 บิดาชื่อนายวิลเลียม เอ็ช เกตส์ จูเนียร์ มีอาชีพนักกฎหมายของบริษัท มารดาชื่อแมรี แมกซ์เวล เกตส์ เป็นสมาชิกคณะกรรมการของ Berkshire Hathaway, First Interstate Bank, Pacific Northwest Bell และคณะกรรมการแห่งชาติของ United Way ชื่อเต็มของเขาคือ วิลเลียม เฮนรี เกตส์ ที่สาม ปู่ของเขาคือ วิลเลียม เฮนรี เกตส์ ซีเนียร์
บิลล์ เกตส์เข้าศึกษาที่โรงเรียนเลคไซด์ อันเป็นโรงเรียนมัธยมที่ดีที่สุดในเมืองซีแอทเทิล ที่นั่นเองที่เขาได้พัฒนาทักษะในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์กับเครื่องมินิคอมพิวเตอร์ของโรงเรียน เพื่อให้ได้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าเดิม บิลล์ เกตส์ กับ พอล อัลเลน เพื่อนสนิท ได้แอบย่องเข้าไปในห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ทั้งคู่ถูกจับได้แต่ก็ได้เจรจาตกลงกับเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ
เพื่อช่วยจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ให้กับนักเรียนได้ใช้ฟรี ต่อมา บิลล์ เกตส์ได้เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แต่ต้องพักการเรียนไปโดยไม่จบการศึกษา เพื่อที่จะได้เริ่มประกอบอาชีพทางด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ ในระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่ที่ฮาร์วาร์ด เขามีโอกาสได้ทำความรู้จักกับสตีฟ บาลเมอร์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ ทั้งคู่เป็นเพื่อนร่วมห้องในหอพักระหว่างที่เป็นนักศึกษาปี 1
ขณะที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่ที่ฮาร์วาร์ด เขาได้ร่วมกับ พอล อัลเลน เขียนต้นแบบ ภาษาอัลแตร์เบสิก ซึ่งเป็นโปรแกรมอินเตอร์เพรเตอร์สำหรับเครื่องอัลแตร์ 8800 (เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรุ่นแรกที่ประสบความสำเร็จทางการค้าในกลางคริสตทศวรรษที่ 70) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาษาเบสิก ซึ่งเป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เรียนรู้ได้ง่าย ถูกพัฒนาขึ้นครั้งแรกโดยดาร์ทเมาท์คอลเลจ เพื่อใช้ในการเรียนการสอน
เกตส์สมรสกับ เมลินดา เฟร้นช์ เมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1994 ทั้งคู่มีบุตรด้วยกันสามคน เจนนิเฟอร์ แคทารีน เกตส์ (เกิดเมื่อวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 1996) โรรี จอห์น เกตส์ (เกิดเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ค.ศ. 1999) และ ฟีบี อาเดล เกตส์ (เกิดเมื่อวันที่ 14 กันยายน ค.ศ. 2002)
ในปี ค.ศ. 1994 บิลล์ เกตส์ได้ม้วนกระดาษไลเชสเตอร์ ซึ่งรวบรวมงานเขียนของเลโอนาร์โด ดา วินชีมาไว้ในครอบครอง และในปี ค.ศ. 2003 ได้นำม้วนกระดาษนี้ออกแสดงที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งเมืองซีแอทเทิล
ในปี ค.ศ. 1997 เกตส์ได้ตกเป็นเหยื่อของแผนการขู่กรรโชกทรัพย์อันแปลกประหลาด ของนายอดัม ควินน์ เพลตเชอร์ ชาวเมืองชิคาโก ซึ่งเกตส์ก็ได้ขึ้นให้การต่อศาลในการพิจารณาคดีดังกล่าว เพลตเชอร์ถูกตัดสินลงโทษเมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1998 และถูกจำคุกเป็นเวลา 6 ปี ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1998 เกตส์ถูกนายโนเอล โกดังจู่โจมด้วยการปาขนมพายหน้าครีมใส่ ระหว่างการไปปรากฏตัวที่ประเทศเบลเยียม
ตามรายงานของนิตยสารฟอบส์ เกตส์ได้บริจาคเงินให้การรณรงค์หาเสียงของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี ค.ศ. 2004 และตามรายงานของศูนย์เฝ้าระวังทางการเมือง เกตส์ถูกระบุว่าบริจาคเงินอย่างน้อย 33,335 ดอลลาร์สหรัฐ ให้กับการรณรงค์หาเสียงมากกว่า 50 ครั้ง ตลอดฤดูกาลเลือกตั้งในปีค.ศ. 2004
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 2004 บิลล์ เกตส์ ได้ร่วมกับคณะกรรมการบริหารของ Berkshire Hathaway เพื่อสานความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการระหว่างเขากับ วอร์เรน บัฟเฟตต์ Berkshire Hathaway เป็นกลุ่มบริษัทที่รวมเอา บริษัทประกันภัยไกโค Benjamin Moore(บริษัทสี) และ Fruit of the Loom(บริษัทสิ่งทอ) เข้าไว้ด้วยกัน เกตส์ยังได้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการในคณะกรรมการบริหารของ Icos ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของ Bothell
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 2005 สำนักวิเทศสัมพันธ์ของสหราชอาณาจักรได้ประกาศว่า บิลล์ เกตส์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการอัศวินแห่งจักรวรรดิบริเตน อันเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตอบแทนที่ต่อสิ่งเขาได้อุทิศให้กับบริษัทในสหราชอาณาจักร และความพยายามของเขาในการลดปัญหาความยากจนในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก แต่เนื่องจากเขาไม่ได้เป็นบุคคลสัญชาติในกลุ่มประเทศเครือจักรภพ เขาจึงไม่สามารถใช้คำนำหน้าว่า เซอร์ ได้ แต่เราต้องใส่อักษร "KBE" (Knight Commander of The British Empire) ตามหลังชื่อของเขา


เกียรติประวัติ
• ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จาก มหาวิทยาลัยวาเซดะ ค.ศ. 2005
• รางวัลเกียรติยศผู้บัญชาการอัศวินแห่งจักรวรรดิบริเตน จากสหราชอาณาจักร ตามประกาศเมื่อปี ค.ศ. 2005 [1]
• ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากสถาบันเทคโนโลยีหลวง (Roytal Institute of Technology) กรุงสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ค.ศ. 2002
• ติดหนึ่งใน 100 อันดับบุคคลสำคัญผู้มีอิทธิพลต่อประชาชนในสื่อต่าง ๆ จากการจัดอันดับของ หนังสือพิมพ์ เดอะ การ์เดียน ค.ศ. 2001
• ติดอันดับบุคคลผู้มีอำนาจ, นิตยสารซันเดย์ ไทม ค.ศ. 1999
• อันดับ 2 ในการจัดอันดับ 100 ดาวรุ่ง, นิตยสารอัพไซด์ ค.ศ. 1999
• อันดับ 1 ในการจัดอันดับ 50 ดาวรุ่งในโลกไซเบอร์, นิตยสารไทม ค.ศ. 1998
• อันดับที่ 28 ใน 100 อันดับบุคคลสำคัญผู้มีอิทธิพลในวงการกีฬา, นิตยสารสปอร์ตติง นิวส์ ค.ศ. 1997
• ผู้บริหารระดับสูงแห่งปี, นิตยสารชีฟ เอกเซกคูทีฟ ออฟฟิซเซอร์ ค.ศ. 1994
• นักกีฏวิทยา ได้ตั้งชื่อแมลงวันตอมดอกไม้พันธุ์หนึ่งว่า Eristalis gatesi ตามชื่อของบิลล์ เกตส์ เพื่อเป็นเกียรติแก่เขา











บุคลิกภาพของบิลเกรดนั้นเป็นคนที่ดูมีเสนห์ในการแต่งตัวนั้นดูภูมิฐาน ทุกครั้งที่มีการให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆจะพูดอย่างมั่นใจและมีท่าทางที่มั่นใจ ไม่เกรงกลัว มีความมุ่งมั่น รวมไปถึงความกล้าพูดในสิ่งที่เป็นจริงในสิ่งที่เขาทำ อีกทั้งเขายังมีความรู้ ความคิดของเขาที่น่าสนใจอีกดังต่อไปนี้
ด้านความรู้และความคิดของคุณบิลเกรดนั้นจะเห็นได้ว่าเขามีความรู้และเชี่ยวชาญในการทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์แต่เขาเกิดความคิดอย่างง่ายๆว่าจะมีคนใช้โปรแกรมนี้อย่างมากมายเขามองเห็นโอกาสและเริ่มทำตามเป้าหมายที่เขาได้ตั้งไว้เขาโดนคนอื่นหาว่าเสียสติ เพ้อเจอ โดนนินทาต่างๆจากผู้คนรอบตัวเขา แต่เขาก็ยังมีความพยายามและอดทน รวมไปถึงการตัดสินใจกับเรื่องต่างที่ผ่านมา จนตัวเขานั้นเป็นผู้อยู่ในธุรกิจที่แข็งแกร่งและทรงอิทธิพลที่สุดของโลก ด้วยโอกาสที่ตนไม่รู้เลย การนำเสนอของเขายังคงมีศิลปะที่ทำให้คนคิดและนึกคำของเขาอีกมากมายดังต่อไปนี้
ศิลปะในการพูดของเขานั้นมีการใช้จิตวิทยาบ้างอย่างที่แอบแฝงอยู่ด้วยความคิดที่แตกต่างจากผู้อื่นทำให้เขาคิดและพูดในสิ่งที่ย้อนถามกลับไปหาคนที่ฟังให้โน้มน้าวตามเขาเช่น If you born poor, it's not your mistake. But if you die poor, it's your mistake.อันความหมายของคำ poor ถ้าแปลตรงๆ ง่ายๆ ก็แปลว่ายากจน แต่ถ้าจะให้ครอบคลุมกว้าง น่าจะตีความได้ว่าไม่เป็นความผิดหรอก ถ้าคุณเกิดมาจน (ไม่มีทรัพย์), แต่ถ้าคุณตายด้วยฐานะที่ยากจนนี่ซิ มันเป็นความผิดของคุณไม่เป็นความผิดหรอก ถ้าคุณเกิดมาสุขภาพไม่ดี, แต่ถ้าคุณตายด้วยสุขภาพไม่ดีนี่ซิ มันเป็นความผิดของคุณไม่เป็นความผิดหรอก ถ้าคุณเกิดมาโง่ (ไม่มีปัญญา), แต่ถ้าคุณตายโดยยังโง่(อัปปัญญา)อยู่นี่ซิ มันเป็นความผิดของคุณข้อความนี้นำไปขยายความได้มากมาย แต่ผมเห็นว่าความจนที่สำคัญมีสามประการดังกล่าวประยุกต์กับการทำงานประจำก็ได้คำกล่าวของ Bill Gate และคำขยายความเหล่านี้ อยู่บนพื้นฐานความเชื่อที่สำคัญในพุทธศาสนา ที่ว่า "มนุษย์เป็นสัตว์ที่พัฒนาได้", "ทุกอย่างเป็นไปตามกรรม" ดังนั้นผู้เจริญจึงหมั่นฝึกฝนตนเองเพื่อพัฒนาไปสู่ภาวะที่ดีขึ้น สิ่งที่ข้าพเจ้าจะนำมาประยุกต์และปรับปรุงตัวข้าพเจ้ามีดังต่อไปนี้

ข้าพเจ้าจะนำบุคลิกที่เขาแสดงออกมาปรับปรุงทั้งความมั่นใจ ความกล้าแสดงออก รวมถึงการกล้าพูดความคิดของตนเอง รวมไปถึงการทำงานที่จะนำไปประยุกต์โดยการหาข้อมูลในการนำเสนอด้วยความพยายามจนดีที่สุด รวมไปกระทั่งงานอื่นๆ อีกมากมายที่จะเจอในอนาคต อีกทั้งยังมีความเป็นผู้นำในความแตกต่างของความคิดเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้าจะนำไปปรับปรุงเพื่อให้ตนนั้นสามารถทำงานกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังจะปรับปรุงเรื่องความขยันหมั่นเพียรในการทำงานต่างๆเพราะตัวข้าพเจ้านั้นจะพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่มีคุณภาพด้วย และที่สำคัญที่สุดจะเป็นคนไขว่คว้าโอกาสที่เข้ามาหาตนให้ตนได้พบกับโอกาสต่างๆ ทั้งการพูด ทั้งการงาน และทั้งด้านการศึกษา ที่จะพบโอกาสมากมาย ที่เราและคนอื่นได้เจอแต่อยู่ที่ว่าเราจะทำไหม จะนำไปประยุกต์อีกอย่างนั่นคือการเป็นผู้ให้นั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น